วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556



ตำนานเทพแห่งศาสนาพราหมณ์หรือฮินดู ศาสนาพราหมณ์มีการนับถือเทพหลายองค์ ได้แก่ พระวิษณุ พระศิวะ และพระพรหม เหตุผลที่สำคัญก็คือเทพเจ้าทั้งหมดมีฤทธานุภาพสามารถบันดาลทุกข์สุขให้กับมนุษย์บนพื้นโลกนั่นเอง สำหรับผู้ที่นับถือพระศิวะเป็นใหญ่ที่สุดจะมีชื่อเรียกว่า “ลัทธิไศวนิกาย” ส่วนผู้ที่นับถือพระวิษณุเป็นใหญ่ที่สุด มีชื่อเรียกว่า “ลัทธิไวษณพนิกาย” และผู้ที่ให้ความเคารพนับถือเทพเจ้าพร้อมกันทั้ง 3 องค์ มีชื่อเรียกว่า “ตรีมูรติ”


• พระศิวะหรือพระอิศวร : เทพผู้ทำลายและสร้างโลก • ในครั้งแรกสุด พระพรหมได้เป็นผู้สร้างโลกและสร้างจักรวาลขึ้นมา แต่ก็ได้เกิดปัญหามากมายขึ้นบนโลกมนุษย์ พระศิวะจึงได้ทำลายโลก พอในเวลาต่อมาพระศิวะ ก็ได้มีการสร้างโลกขึ้นมาใหม่ โดยสร้างพระนารายณ์ขึ้นมาเป็นผู้ดูแลรักษาด้วย • ลักษณะของพระศิวะ มี 1 เศียร 4 กร 3 พระเนตร ซึ่งพระเนตรส่วนที่ 3 นั้นจะอยู่กึ่งกลางหน้าผาก จะทรงนุ่งหนังกวาง แล้วยังมีสร้อยสังวาลเป็นงู ส่วนพระหัตถ์ทรงตรีสูร ทรงโคนนทิเป็นพาหนะ ให้สังเกตดูหากได้พบรูปปั้นโคนนทิ อยู่บริเวณทางเดินที่จะต้องเข้ามายังปราสาท หรือมีรูปโคนนทิอยู่ในปราสาท นั่นหมายถึงว่าได้มีการสร้างปราสาทแห่งนั้นเพื่ออุทิศแด่พระศิวะ • นอกจากนี้ พระศิวะยังสามารถกำหนดโชคชะตาของมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนโลกโดยวิธีการร่ายรำที่มีชื่อเรียกว่า “ศิวนาฏราช” โดยเฉพาะที่สำคัญคือ ถ้าหากมีการร่ายรำด้วยความอ่อนช้อย ก็จะช่วยให้บรรดาเหล่ามนุษย์โลก
อยู่เย็นเป็นสุข



• พระวิษณุหรือพระนารายณ์ : เทพผู้รักษาคุ้มครองโลก • คำว่า “พระนารายณ์” หมายถึง ผู้ที่ได้เคลื่อนไหวอยู่ในน้ำ คือกำลังบรรทมอยู่เหนือหลังพญานาคราช ชาวฮินดูที่นับถือไวษณพนิกาย จะเชื่อถือว่า พระวิษณุหรือพระนารายณ์นั้นจะต้องเป็นเทพสูงสุด หลักฐานตามคัมภีร์พราหมณ์ปุราณะ ได้กล่าวไว้ว่า พระศิวะได้ทรงสร้างโลกขึ้นมา แต่งานที่จะรักษาโลกให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขเป็นเรื่องที่ยากกว่า ดังนั้นพระศิวะจึงสร้างพระวิษณุ ให้มาเป็นผู้ช่วยรักษา ในช่วงเวลาที่สร้างโลกอยู่นั้น พระนารายณ์ก็จะอวตาร เพื่อจะลงมาช่วยปราบยุคเข็ญในโลกเป็นจำนวนมากถึง 10 ครั้ง ได้แก่ อวตารเป็น ปลา เต่า หมูป่า นรสิงห์ พราหมณ์ถือขวานเพชร พราหมณ์เตี้ย พระราม พระกฤษณะ พระพุทธเจ้า บุรุษที่ชือกัลลี ลัษณะของพระวิษณุ มี 4 กร ทรงถือคฑา สังข์ จักร และดอกบัว มีพาหนะเป็นครุฑ

• พระพรหม : เทพเจ้าผู้สร้างจักรวาลและโลก • พระพรหมเป็นเทพเจ้าองค์แรกในตรีมูรติ (ได้แก่ พระพรหมณ พระนารายณ์ และพระอิศวร) ในตำราได้กล่าวไว้ว่า พระพรหมนั้นมีกายสีแดง มี 4 พระพักตร์ พระกร 4 ข้าง ถือคฑา ลูกประคำ หม้อน้ำ หรือคันศร ประทับอยู่บนอาสน์บัวบาน และทรงหงส์เป็นพาหนะ ชาวฮินดูที่นับถือไวษพณิกาย จะมีความเชื่ออยู่ว่าพระพรหมได้เกิดออกจากพระนาภีร์(สะดือ)ของพระนารายณ์ ในช่วงเวลาขณะที่กำลังบรรทมอยู่เหนือลำตัวพญานาคในทะเลน้ำนมหรือเกษียรสมุทร













• พระพิฆเนศวร : เทพแห่งศิลปะวิทยาการและเทพแห่งความสำเร็จ • ผู้ซึ่งเป็นโอรสของพระอิศวรและพระอุมาเทวี (ในภาคของนางทุรคา) เป็นพระเชษฐาของพระขันธกุมาร โดยมีเศียรลักษณะเป็นช้าง ตัวแทนแห่งเทพแห่งศิลปะวิทยาการและเทพแห่งความสำเร็จ มีผู้ที่ให้ความเคารพนับถือกันอย่างมากมาย ทรงหนูเป็นพาหนะ
















 • พระนางอุมาเทวี : ผู้ซึ่งเป็นเทวีแห่งความเมตตา • พระนางอุมาเทวี เป็นพระชายาของพระศิวะ มีลักษณะพิเศษ มี 2 ภาคอยู่ในร่างเดียวกัน ได้แก่ พระอุมาเทวี หรือ ปารพตี โดยจะมีความเรียบร้อยและความเมตตา แต่ในทางตรงข้ามก็จะมีลักษณะที่มีความรุนแรงและโหดร้าย เรียกว่า เจ้าแม่กาลีหรือทุรคา ด้วยเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเกิดมาจากการที่มีเหล่าเทพได้พากันมาช่วยชุบขึ้นเพื่อช่วยกันปราบอสูร ส่วนโอรสของพระนางอุมาเทวีคือ พระขันธกุมาร ซึ่งเป็นเทพแห่งการทำสงคราม และ พระพิฆเนศวร เป็นโอรสของนางทุรคา เศียรจะมีลักษณะเป็นช้าง ซึ่งได้ถูกยกให้เป็นเทพแห่งศิลปะวิทยาการและเทพแห่งความสำเร็จ

• พระนางลักษมี : เทวีแห่งความมั่งคั่งและเทวีแห่งความดีงาม • พระนางลักษมีเป็นชายาของพระวิษณุ ตามหลักฐานของคัมภีร์รามายณะ ได้มีคำกล่าวถึงตอนที่เหล่าเทวดาและยักษ์ทั้งหลายทำการกวนเกษียรสมุทรเพื่อน้ำอมฤต ในการกวนเกษียรสมุทร ได้เกิดสิ่งวิเศษขึ้นมาถึง 14 อย่างและเกิดพระลักษมีขึ้นมาด้วย ครั้นพอพระนางได้ปรากฏกายขึ้นมา ทางด้านของพระนารายณ์หรือพระวิษณุในขณะนั้นยังทรงอวตารอยู่ในลักษณะของเต่าที่มีขนาดใหญ่ ได้เห็นพระนางลักษมี จึงรู้สึกพึงพอใจขึ้นมาในทันที จึงได้แสดงถึงความมีอำนาจฤทธิ์เดชของพระองค์ ทำการบันดาลให้พระนางเข้ามาเป็นชายาของพระองค์ได้อย่างสมปรารถนา






• พระสุรัสวดี : ผู้ซึ่งเป็นเทวีแห่งภาษาและความรู้ • พระสุรัสวดีเป็นชายาของพระพรหม โดยหลักฐานจากคัมภีร์มัสยาปุราณะ ได้กล่าวไว้ว่า พระพรหมธาดาซึ่งเป็นผู้สร้างพระนางขึ้นมาเอง ต่อมาภายหลังได้เกิดหลงรักในธิดา และในครั้งนี้เองได้เกิดอภิเษกกับพระธิดาของพระองค์เอง • ลักษณะ : พระนางสุรัสวดี จะทรงมีพระวรกายขาว ประทับนั่งอยู่บนดอกบัว โดยพระบาทห้อยลงมายังเบื้องล่างข้างหนึ่ง ส่วนพระกรจะถือพิณ บางแห่งที่ได้พบเห็นจะมีเพียงพระพักตร์เดียว หรืออาจจะมี 4 พระพักตร์ก็ได้ แต่มี 4 พระกร แต่ในบางแห่งจะมีถึง 8 พระกร ทรงสวมส่าหรี สวมมงกุฎ และเครื่องประดับ ประทับบนหลังนกยูงทองคำ







• พระกฤษณะ : มหาเทพผู้แห่งความหลุดพ้น
ชี้ทางมนุษย์ไปสู่ความสุขสมบูรณ์ที่แท้จริง

พระกฤษณะ เป็นอวตารหนึ่งของ พระวิษณุ
ในมหากาพย์เรื่อง "มหาภารตะ" ซึ่งเป็นหนังสือที่ยาวที่สุดในโลก
บรรจุไว้ซึ่งเรื่องราวต่างๆมากมาย
และมีคัมภีร์เล่มหนึ่งบรรจุไว้ด้วย นั่นคือ "คัมภีร์ภควัทคีตา"




• ตำนานพระอาทิตย์ (พระสุริยะ): โดย ศรีมหาโพธิ์
            อาทิตย์ ตามคัมภีร์ไตรเพทของพราหมณ์ กล่าวว่ามีถึง ๘ องค์ มีชื่อต่างๆกันว่าเป็นโอรสของพระกัศปประชาบดี กับพระอทิติ แต่ได้ทอดทิ้งพระมรรตาณะฑะเสียองค์หนึ่ง คงนำไปเฝ้าพระเป็นเจ้าแค่ ๗ องค์ ต่อมาไกล่เกลี่ยตกลงกันได้ จึงยอมรับพระมรรตาณะฑะเป็นอาทิตย์ด้วย จึงรวมเป็นพระอาทิตย์ ๘ องค์


















ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.siamganesh.com

1 ความคิดเห็น: